กรุงศรี SMS Banking

 

บริการ SMS รู้ไว ไม่อั้น  แจ้งทุกยอด ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว
ค่าบริการเพียง 19 บาท/เดือน/บัญชี

รู้ไว เมื่อมีเงินเข้า - ออก
รู้ไว เมื่อมีการใช้จ่ายผ่านบัตร
รู้ไว เมื่อมีการชำระค่าสินค้าและบริการ
แจ้งทุกรายการไม่กำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำ และแจ้งเตือนเมื่อบัญชีไม่เคลื่อนไหว

 

บริการ Krungsri SMS Banking
บริการธนาคารทางโทรศัพท์มือถือผ่านระบบ SMS ปลอดภัยด้วยการลงทะเบียนเมื่อใช้บริการเกี่ยวกับบัญชีของคุณ สามารถใช้งานได้กับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ AIS, DTAC และ True Move

สมัครง่ายหลายช่องทาง เพียงมีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา
สาขาธนาคารกรุงศรี
สาขาธนาคารกรุงศรี
ตู้ ATM กรุงศรี
ตู้ ATM กรุงศรี
กรุงศรีโฟน 1572
กรุงศรีโฟน 1572


Krungsri SMS Banking เป็นบริการแจ้งและสอบถามข้อมูลทางการเงินผ่านระบบ SMS โดยมีรายละเอียดดังนี้

บริการแจ้งข้อมูล (SMS Alert)
  • แจ้งเมื่อมีเงินรับเข้าบัญชี
  • แจ้งเมื่อมีเงินออกจากบัญชี เมื่อทำรายการผ่านช่องทางเอทีเอ็ม ,กรุงศรีโฟน 1572 หรือเคาน์เตอร์สาขาธนาคารกรุงศรีอยุธยา
  • แจ้งเมื่อมีการใช้จ่ายด้วยบัตรเดบิต ผ่านเครื่องรูดบัตร EDC
  • แจ้งเมื่อมีการหักบัญชีอัตโนมัติ สำหรับรายการที่สมัครบริการหักชำระบัญชีเพื่อชำระค่าใช้จ่าย หรือค่าสินเชื่อต่างๆ
  • แจ้งเมื่อบัญชีไม่เคลื่อนไหว สำหรับบัญชีออมทรัพย์ที่มีเงินคงเหลือน้อยกว่า 2,000 บาทและไม่มีการเคลื่อนไหวของบัญชี เกิน 3 เดือน

ช่องทางและขั้นตอนการสมัครใช้บริการ

สมัครผ่านสาขาธนาคารกรุงศรีอยุธยา
สมัครผ่านตู้ ATM กรุงศรี
สมัครผ่านกรุงศรีโฟน 1572
หมายเหตุ
  • ผู้สมัครใช้บริการต้องเป็นบุคคลธรรมดา ที่มีบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีกระแสรายวันเท่านั้น
  • เงื่อนไขและข้อตกลงการให้บริการกรุงศรี SMS Banking เป็นไปตามข้อกำหนดของธนาคาร
  • ผู้สมัครสามารถเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์มือถือ/เปลี่ยนแปลงภาษาในการใช้งาน/หรือยกเลิกบริการกรุงศรี SMS Banking ได้ผ่านทางเครื่องกรุงศรี ATM หรือธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา

คำถามที่พบบ่อย

ลูกค้าไม่สามารถเลือกรับการแจ้งเตือนเฉพาะบางหัวข้อได้
  • กรณีเปลี่ยนแปลงข้อมูลผ่าน กรุงศรีเอทีเอ็ม
    1. เลือก “สมัคร/เปลี่ยนแปลงบริการ”
    2. เลือก “บริการทางโทรศัพท์มือถือ/SMS
    3. เลือก “บริการ SMS Banking”
    4. เลือก “เปลี่ยนเบอร์มือถือ”
    5. ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอเอทีเอ็ม
  • กรณีเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่สาขา
    เอกสารประกอบ ได้แก่
    • (กรณีลูกค้าบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย)
      • บัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของบัญชี
    • (กรณีลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ไม่ได้มีสัญชาติไทย)
      • หนังสือเดินทาง (Passport)
ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศสามารถรับ SMS Banking ได้โดยจะต้องทำการเปิดใช้บริการโรมมิ่งให้กับหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ได้ลงทะเบียนไว้
สามารถสมัครได้ 1 หมายเลขต่อ 1 บัญชีเท่านั้น

ดาวน์โหลดเอกสาร

 
ข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริการ Krungsri SMS Banking
PDF

บทความที่เกี่ยวข้อง

SME

อยากทำธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้า เริ่มต้นยังไงดี?

<div class="text-content"><!-- start Top text content --><div class="ar-text-content">พูดได้เต็มปากเลยว่าวันนี้เรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า ในบ้านเราเรียกได้ว่ากำลังมาแรงสุด ๆ เห็นได้จากยอดจองรถในแต่ละเดือน หรือการที่มี<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/know-before-buy-ev-car" target="_blank">สังคมของคนขับรถยนต์ไฟฟ้า</a>มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าแบรนด์จีน อย่าง BYD, GWM หรือแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Tesla ก็เข้ามาตีตลาด วางขายในบ้านเราอย่างเป็นทางการด้วยเหมือนกัน เมื่อมีรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น สิ่งที่ทุกคนอยากให้มีเพิ่มเลยคือ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพราะปกติรถจะต้องเสียบชาร์จกว่าแบตเตอรี่จะเต็มก็กินเวลานาน ต่างจากรถยนต์น้ำมันที่ใช้เวลาเติมน้อยกว่า</div><!--end text content --><div class="ar-text-content mt-ar-text1">นี่อาจเป็นโอกาสดี ๆ ที่เราสามารถสร้างธุรกิจที่เกี่ยวกับสถานีชาร์จรถไฟฟ้าได้ก่อนใคร ๆ แต่พอมาคิดทำเป็นธุรกิจย่อมมีหลายอย่างที่จะต้องวางแผน วันนี้เรามีไอเดียดี ๆ ในการสร้างธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้าให้กับทุกคนที่สนใจ จะมีเรื่องอะไรที่คนอยากเริ่มต้นธุรกิจนี้ต้องรู้ไว้ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปลุยสร้างธุรกิจพร้อมกันกับเราเลย</div><div class="mt-ar-text1"><center><img alt="สถานีชาร์จรถไฟฟ้า อยากลงทุนต้องเตรียมอะไรบ้าง?" class="img-fluid" src="/getmedia/31d29aaa-8d56-4e59-9066-ccc00eb4d512/invest-ev-charger-station-image-detail-01.webp.aspx" /></center></div><div class="ar-box-title mt-40px-xl mt-24px-xs pl-10px-all"><h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">สถานีชาร์จรถไฟฟ้า อยากลงทุนต้องเตรียมอะไรบ้าง?</span></h2></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">การเตรียมตัวสำหรับธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้านั้นง่าย ๆ คือ &ldquo;เงินทุน&rdquo; และ &ldquo;สถานที่&rdquo; ถึงจะมีแค่สองสิ่งแต่รายละเอียดในสำหรับธุรกิจนี้นั้นมีกว่านี้แน่นอน ที่บอกว่าใช้เงินทุน มันปกติอยู่แล้วไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรเงินทุนเป็นสิ่งสำคัญ แต่เงินทุนสำหรับธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้า อาจต้องใช้เยอะสักหน่อยในช่วงเริ่มต้น เพราะเราจะต้องใช้ไปกับการลงทุนในที่ชาร์จรถไฟฟ้า ที่แต่ละแบบ แต่ละยี่ห้อก็มีราคาที่ต้องจ่ายแตกต่างกันไป<br /><br />โดยปกติที่ชาร์จรถไฟฟ้าจะมีด้วยกัน 2 แบบคือ แบบ AC คือที่ชาร์จรถไฟฟ้ากระแสสลับ จะใช้เวลาประมาณ 5-7 ชั่วโมง โดยสามารถชาร์จได้สูงสุดที่ 22 กิโลวัตต์ และแบบ DC หรือการชาร์จรถไฟฟ้าแบบกระแสตรง อันนี้จะชาร์จได้อย่างรวดเร็วจะสามารถชาร์จได้สูงสุดที่ 250 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับรถยนต์ไฟฟ้าของแต่ละคัน และยี่ห้อของที่ชาร์จรถไฟฟ้า และอีกหนึ่งสิ่งที่เราต้องเตรียมคือ สถานที่ เพราะสถานีชาร์จรถไฟฟ้าต้องมีพื้นที่ให้จอดรถอยู่แล้ว หากใครมีที่ดิน หรือมีธุรกิจเดิม มีพื้นที่กว้างอันนี้จะได้เปรียบสักหน่อย เพราะสามารถตั้งตู้ชาร์จรถไฟฟ้าได้เยอะ และรองรับคนเข้ามาใช้บริการได้หลายคัน<br /><br />นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายในการวางระบบ<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/prepare-buy-electric-car" target="_blank">ติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้า</a> อย่างเช่น การเปลี่ยนมิเตอร์ไฟให้รองรับการจ่ายไฟได้ในระดับสูง ค่าสายไฟในการเดินระบบต่าง ๆ และอยากประหยัดต้นทุนในระยะยาวอาจเพิ่มการ<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/5-solarcell-for-home" target="_blank">ติดตั้งโซล่าเซลล์</a> เพื่อช่วยผลิตกระแสไฟฟ้าในช่วงกลางวัน รวมแล้วอาจต้องเตรียมเงินเผื่อไว้สำหรับเงินลงทุนสถานีชาร์จรถไฟฟ้าราคาประมาณ 1-2 ล้านบาท ถึงแม้จะใช้เงินลงทุนที่สูงสักหน่อย แต่ธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้าสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลาไม่กี่ปี เพราะอุปกรณ์ชาร์จรถไฟฟ้ามีอายุการใช้งานราว 10-20 ปี และในตอนนี้มีความต้องการหาสถานีชาร์จรถไฟฟ้ามากขึ้น เพียงแค่สร้างเสร็จ ก็มีลูกค้าจ่อคิวรอใช้บริการชัวร์<br /><br />ถ้าใครที่มีฝันอยากเริ่มต้นธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้าแต่ยังขาดเงินทุน ก็สามารถมองหาสินเชื่อเพื่อประกอบธุรกิจ SME ทางธนาคารกรุงศรีก็มีสินเชื่อแบบนี้ ช่วยสานฝันให้เจ้าของธุรกิจหน้าใหม่ด้วยเหมือนกัน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/business/loans/sme-not-over-20-million/quick-loan" target="_blank">สินเชื่อเพื่อประกอบธุรกิจ SME ตรงนี้ได้เลย</a></div><div class="ar-box-title mt-40px-xl mt-24px-xs pl-10px-all"><h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">เลือกทำเลอย่างไร? ถ้าอยากเปิดธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้า</span></h2></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">เรื่องของทำเลเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนทำธุรกิจต้องให้ความสำคัญเหมือนกันนั่นเพราะว่า หากธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้าของเราตั้งอยู่ในพื้นที่เดินทางไปยาก ลึกลับ ต่อให้ดีแค่ไหนอาจไม่ดึงดูดลูกค้านัก เรื่องของทำเลธุรกิจหากจะเปิดธุรกิจทั้งที อาจเอาไอเดียดังต่อไปนี้ลองไปปรับใช้กันได้</div><div class="mt-ar-text1"><center><img alt="เลือกทำเลอย่างไร? ถ้าอยากเปิดธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้า" class="img-fluid" src="/getmedia/9f438374-1ce3-43c8-b488-363f373b0c98/invest-ev-charger-station-image-detail-02.webp.aspx" /></center></div><div class="ar-sub-title mt-40px-all"><h3 class="fz-18px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px; font-weight: bold;">ทำเลอยู่ในจุดใกล้ขาออกไปต่างจังหวัด</span></h3></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">หลายคนอาจแย้งว่า ทำไมไม่หาที่กลางเมืองล่ะ คนใช้รถเยอะนะ จากพฤติกรรมของคนใช้รถไฟฟ้าในเมืองส่วนใหญ่มักมีที่ชาร์จรถอยู่แล้วที่บ้าน แล้วหนึ่งรอบการชาร์จก็สามารถวิ่งได้หลายร้อยกิโลเมตร ทำให้การขับรถไปทำงานในเมืองอาจทำให้มีลูกค้าน้อยกว่าที่คิด แต่การเลือกทำเลมาในจุดรอบนอกที่เป็นจุดทางออกไปสู่ต่างจังหวัดนี่ทำให้เรามีลูกค้าเพิ่มขึ้น<br /><br />เพราะตอนนี้ในต่างจังหวัดจำนวนของสถานีชาร์จรถไฟฟ้ายังค่อนข้างน้อย หลายคนที่อยากไปเที่ยวต้องมองหาจุดสตาร์ทชาร์จรถไฟฟ้าให้พร้อม โดยทำเลน่าสนใจอย่างเช่น ทางออกสู่ภาคใต้ บริเวณถนนพระราม 2 หรือช่วงสมุทรสาคร หรือโซนรังสิตทางออกไปภาคเหนือและภาคอีสาน ถ้าใครอยากทำธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้า ตรงนี้ล่ะเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่น่าสนใจเลย<br /><br />จากไอเดียที่ว่ามานี้เลยเป็นโอกาสในธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้าของเรา เพราะยังไงผู้คนต้องใช้ และถ้าเรามีตู้ชาร์จรถไฟฟ้าให้บริการพร้อม 24 ชั่วโมง ยังไงลูกค้าก็มุ่งมาใช้บริการอย่างแน่นอน</div><div class="mt-ar-text1"><center><img alt="อยากเปิดธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้า เลือกทำเลอย่างไร?" class="img-fluid" src="/getmedia/40890b09-21bd-4fda-8501-3187557551df/invest-ev-charger-station-image-detail-03.webp.aspx" /></center></div><div class="ar-sub-title mt-40px-all"><h3 class="fz-18px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px; font-weight: bold;">อยู่ใกล้ถนนเส้นหลัก พร้อมเลี้ยวเข้ามาได้ทันที</span></h3></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">สำหรับเรื่องนี้ก็น่าสนใจเหมือนกัน นั่นเพราะว่าส่วนใหญ่คนขับรถยนต์ไฟฟ้ามักจะมองหาสถานีชาร์จในช่วงที่แบตเตอรี่เหลือไม่มาก ถ้าสถานีชาร์จรถไฟฟ้าของเราอยู่ติดถนนหลัก มีทางเข้าจอดง่าย ก็จะเป็นตัวเลือกที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ไม่จำเป็นว่าจะตั้งอยู่ในเมืองใหญ่เพียงเท่านั้น และสามารถเอาไอเดียนี้ไปทำในต่างจังหวัดก็ได้ หรือจะเป็นรอยต่อของจังหวัดที่แต่เดิมมีสถานีชาร์จรถไฟฟ้าค่อนข้างน้อย<br /><br />โดยตัวอย่างทำเลที่น่าสนใจ เช่น ถนนที่อยู่ใกล้ทางด่วน เพื่อดึงดูดให้เจ้าของรถมาชาร์จไฟให้พร้อมก่อนใช้ทางด่วน หรือบริเวณถนนเพชรเกษม ลงสู่ภาคใต้ หรือถนนมิตรภาพ ขึ้นไปภาคอีสาน ที่มีรถวิ่งตลอดเวลาทั้งวัน การมีสถานีชาร์จรถไฟฟ้าไปตั้งอยู่ตรงนั้น เรียกได้ว่าลูกค้าต้องเข้ามาใช้บริการไม่ขาดสายชัวร์</div><div class="ar-box-title mt-40px-xl mt-24px-xs pl-10px-all"><h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">ธุรกิจไหน? ที่เหมาะกับการทำสถานีชาร์จรถไฟฟ้า</span></h2></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">การทำสถานีชาร์จรถไฟฟ้าไม่จำเป็นต้องสร้างขึ้นมาใหม่เพียงอย่างเดียว แต่เราสามารถต่อยอดจากธุรกิจเดิมที่เรามีอยู่แล้วขึ้นมาได้ แล้วธุรกิจแบบไหนในตอนนี้ที่เหมาะกับการนำที่ชาร์จรถไฟฟ้ามาช่วยหนุนธุรกิจบ้าง</div><div class="mt-ar-text1"><center><img alt="ธุรกิจโรงแรมรายวันกับที่ชาร์จรถไฟฟ้า" class="img-fluid" src="/getmedia/c8d053db-f589-4125-af14-6bb07df14ec5/invest-ev-charger-station-image-detail-04.webp.aspx" /><br />ขอขอบคุณรูปภาพ จาก EV Lifestyle Thailand</center></div><div class="ar-sub-title mt-40px-all"><h3 class="fz-18px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px; font-weight: bold;">1. ธุรกิจโรงแรมรายวัน</span></h3></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">หลายคนต้องมีเอ๊ะกันบ้าง เพราะธุรกิจรายวัน หรือที่ใครหลายคนเรียกติดปากกันว่า ม่านรูด เชื่อไหมว่าธุรกิจโรงแรมรายวันนี้สามารถเพิ่มกำไรด้วยการมีสถานีชาร์จรถไฟฟ้า เพราะว่าแต่ละห้องก็สามารถจอดรถได้อยู่แล้ว และสามารถจอดรถได้อย่างเป็นส่วนตัว และถ้าหากเราพักผ่อนอย่างน้อย ๆ รถยนต์ของลูกค้าเมื่อเข้าพักจนถึงเช็กเอาท์ อย่างไรก็ชาร์จได้เต็ม และราคาต้นทุนของธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้าก็ถูกกว่าการติดตั้งตู้ชาร์จใหญ่ ๆ อีกด้วย เพราะสามารถใช้ที่ชาร์จติดตั้งตามบ้านพักอาศัยทั่วไปได้ แถมชาร์จตลอดวันก็เสียค่าไฟเพียงหลักร้อย ส่วนใหญ่ก็คิดรวมกับค่าห้องพักอยู่แล้ว และเราสามารถ<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/hotel-business-staycation" target="_blank">โปรโมทโรงแรม</a>ของเราเพื่อดึงดูดให้คนใช้รถไฟฟ้าที่ต้องขับเดินทางข้ามจังหวัดให้ใช้บริการของเราได้อีก เรียกได้ว่าไอเดียนี้ช่วยเพิ่มลูกค้าได้ดีสุด ๆ</div><div class="mt-ar-text1"><center><img alt="ธุรกิจร้านอาหารกับที่ชาร์จรถไฟฟ้า" class="img-fluid" src="/getmedia/eb2eeb11-3103-4e23-9e67-4c927a1d7c7e/invest-ev-charger-station-image-detail-05.webp.aspx" /></center></div><div class="ar-sub-title mt-40px-all"><h3 class="fz-18px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px; font-weight: bold;">2. ธุรกิจร้านอาหาร</span></h3></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สามารถปรับตัวสร้างสถานีชาร์จรถไฟฟ้าได้เหมือนกัน เพราะปกติหากจะชาร์จรถไฟฟ้า มักใช้เวลาหลักชั่วโมงกันอยู่แล้ว และเราจะไปไหนหลายคนเลยเลือกที่จะไปหาของอร่อย ๆ ทานเพื่อรอเวลาชาร์จรถไฟฟ้า หากธุรกิจของเราทำร้านอาหาร มีพื้นที่สักหน่อยอาจลงทุนแบ่งพื้นที่ทำสถานีชาร์จรถไฟฟ้าเพื่อดึงดูดคนเข้ามาใช้บริการในธุรกิจอื่น ๆ ของเรา ชาร์จรถไฟฟ้าเราก็ได้เงิน ลูกค้าไม่มีอะไรทำก็สั่งอาหารระหว่างรอ เห็นไหมว่าเราได้กำไรถึง 2 ต่อเลยทีเดียว หากใครทำธุรกิจร้านอาหาร ก็สามารถเอาไอเดียนี้ไปต่อยอดได้เลย</div><div class="mt-ar-text1"><center><img alt="ธุรกิจที่จอดรถรายชั่วโมงกับที่ชาร์จรถไฟฟ้า" class="img-fluid" src="/getmedia/234e0910-fa6f-488e-9304-a58250d9ecdc/invest-ev-charger-station-image-detail-06.webp.aspx" /></center></div><div class="ar-sub-title mt-40px-all"><h3 class="fz-18px-all"><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00;line-height: 35px; font-weight: bold;">3. ธุรกิจที่จอดรถรายชั่วโมง</span></h3></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">สำหรับธุรกิจนี้หลายคนมักเรียกว่าเป็นเสือนอนกิน เพราะเปิดรับฝากรถ ไม่ต้องทำอะไรมากก็ได้เงิน แต่ถ้าหากอยากมีกำไรให้มากกว่าเดิม กลายเป็นเสืออ้วนนอนรับเงินแบบเต็มตัว การทำโซนสถานีชาร์จรถไฟฟ้าก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะว่าส่วนใหญ่ที่จอดรถรายชั่วโมงมักอยู่ใกล้พื้นที่ท่องเที่ยวที่คนเยอะ ๆ คนขับรถยนต์ไฟฟ้าก็มักจะแชร์เรื่องราวการท่องเที่ยวลงในกลุ่มโซเชียลกันบ่อย ๆ แล้วหากว่าธุรกิจที่จอดรถของเราทำสถานีชาร์จรถไฟฟ้า นอกจากเราจะได้ค่าจอดรถที่นับเป็นชั่วโมง เรายังได้ค่าชาร์จรถไฟฟ้าไปพร้อมกันด้วย <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/online-business-cost" target="_blank">ต้นทุนธุรกิจ</a>ของเราก็มีเพียงแค่ตู้ชาร์จรถไฟฟ้า และก็จ้างพนักงานที่มีความรู้เรื่องของการใช้ระบบชาร์จมาสักหน่อย รับรองธุรกิจนี้ช่วยสร้างผลตอบแทนแบบที่คาดไม่ถึงเลยล่ะ แถมยังคืนทุนได้ไวกว่าเดิม รับเงินยาว ๆ ไปได้อีกนาน</div><div class="ar-text-content mt-40px-all">และนี่ก็เป็นไอเดียสำหรับการสร้างธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้า หากใครมีฝัน หรืออยากทำธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้า สามารถเอาไอเดียจากเราไปต่อยอดได้เลย เพราะโอกาสสำเร็จของธุรกิจมักตกอยู่ในมือของคนที่เริ่มได้ก่อนใคร หากใครชอบเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจแบบนี้ อย่าลืมติดตามเรื่องอื่น ๆ จากเราได้เลย รับรองว่าจะมีเรื่องดี ๆ เทรนด์ธุรกิจใหม่ ๆ อย่าลืมติดตามน้า~</div><!-- ข้อความห่างจากด้านบน --></div><style type="text/css">.ar-sub-title { font-family: "Krungsri-Condensed-Bold"; font-size: 20px; font-weight: bold; letter-spacing: 0; margin-left: 0px;}</style><style type="text/css">.ar-box-title { line-height: 48px; border-left: 5px solid #ffd400;}</style>
ks-plearn
3 Min Read
share
SME

เริ่มต้นทำธุรกิจกับ “เพื่อนรัก” ยังไงไม่ให้หักเหลี่ยมโหด

<div class="text-content"><!-- start Top text content --><div class="ar-text-content">ในช่วงชีวิตของคนเรา การมีเพื่อนดี ๆ นับว่าหาได้ยาก และถ้าได้เพื่อนรักคนนั้นมาทำธุรกิจด้วยกันมันคงจะดีนะ เพราะรู้จักกับอีกฝ่ายอย่างดี มีความชอบเหมือน ๆ กัน แต่รู้กันไหมว่าการ<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/partnership-sme-tips" target="_blank">ทำธุรกิจกับเพื่อน</a>รักมีความเสี่ยงที่ทำให้ความเป็นเพื่อนต้องจบลง และอาจเลวร้ายจนถึงทะเลาะ เลิกคบกันไปได้เลย หากไม่ทำข้อตกลง และผลประโยชน์ทางธุรกิจให้ดี คงไม่มีใครอยากมีเรื่องทะเลาะ หรือขึ้นศาลฟ้องเพื่อนที่รักกันหรอกนะ แล้วคู่เพื่อนที่กำลังคิด<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/starting-new-business" target="_blank">เริ่มทำธุรกิจ</a>ต้องทำอย่างไร? ไม่ให้ต้องเจอจุดจบถึงขั้นต้องหักเหลี่ยมโหดกันในชั้นศาล ฟ้องร้องกันไปมา แต่เปลี่ยนเป็นช่วยกันประคับประคอง จับมือสร้างธุรกิจให้เติบโตไปได้ด้วยกัน</div><div class="mt-ar-text1"><center><img alt="ข้อตกลงที่ควรคุยกับเพื่อนก่อนเริ่มทำธุรกิจ" class="img-fluid" src="/getmedia/871c9fdc-27c6-4b87-be3b-7ffd7ff23d25/how-to-start-business-with-friend-detail-01.jpeg.aspx" /></center></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">เอาอย่างนี้ดีกว่า วันนี้เราขอพาคู่เพื่อนที่มีความฝัน อยากทำธุรกิจ มาเรียนรู้หลักสูตรการทำธุรกิจให้รุ่งมาฝากกัน ตามมาดูกันเลย..</div><div class="ar-box-title mt-40px-xl mt-24px-xs pl-10px-all"><h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">ข้อตกลงที่ควรคุยกับเพื่อนรัก ก่อนทำธุรกิจ!</span></h2></div><div class="mt-ar-text1"><center><img alt="การมีเป้าหมายเดียวกันในการทำธุรกิจกับเพื่อน" class="img-fluid" src="/getmedia/992a7809-51b6-4542-b8bd-ef75d6293262/how-to-start-business-with-friend-detail-02.jpeg.aspx" /></center></div><div class="ar-sub-title mt-40px-all"><h3><span style=" border-bottom: 2px solid #ffda00; line-height: 35px; font-size: 18px; font-weight: bold; ">1. มีฝันการทำธุรกิจเดียวกัน</span></h3></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">ก่อนอื่นที่จะเริ่มทำธุรกิจกับเพื่อนรักของเรา ลองถามเพื่อน ๆ ของเราดูก่อนว่าแต่ละคนมี<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/3-important-keys-before-starting-a-business" target="_blank">เป้าหมายในการทำธุรกิจ</a>อย่างไรกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงาน ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ความถนัดของแต่ละคนชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เราต้องคุยกันให้ครบถึงแม้จะเป็นเพื่อนรักกันมานาน แต่ละคนก็มีความชอบไม่เหมือนกัน เป้าหมายในการทำธุรกิจก็ไม่เหมือนกัน บางคนอยากสร้างฐานะ บางคนก็อยากได้เงิน หรือบางคนก็แค่อยากมีส่วนร่วมกับเพื่อนเฉย ๆ ไม่ได้มีเป้าหมายชัดเจน</div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">เมื่อคุยกันเรียบร้อย ก็ถึงขั้นตอนเริ่มวางแผนการทำธุรกิจ ส่วนนี้ต้องเรียกเพื่อนให้มาคุยพร้อมกัน อย่าทำอะไรเพียงคนเดียว เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาบางเรื่องอาจสายเกินแก้ เช่น เกิดปัญหาเฉพาะหน้าของธุรกิจหลังจากที่ทำไปแล้ว หรือบริหารธุรกิจผิดพลาด เนื่องจากมีแผนธุรกิจที่ไม่ชัดเจน และข้อดีอีกอย่างของการทำแผนธุรกิจนั่นคือ <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/sme-loan-build-your-dream" target="_blank">การขอสินเชื่อ</a>ในการนำมาใช้จ่ายหมุนเวียนในธุรกิจจากธนาคาร หากเรามีแผนธุรกิจที่ดี มีข้อมูลชัดเจนจะช่วยให้การได้รับสินเชื่อง่ายขึ้น ใครที่กำลังจะเริ่มธุรกิจกับเพื่อน ๆ บอกได้เลยเรื่องแบบนี้สำคัญสุด ๆ</div><div class="mt-ar-text1"><center><img alt="การแยกความเป็นเพื่อนกับเรื่องการทำงานออกจากกันในการธุรกิจร่วมกัน" class="img-fluid" src="/getmedia/230fd440-4333-43fe-8b99-7ad4301fe4da/how-to-start-business-with-friend-detail-03.jpeg.aspx" /></center></div><div class="ar-sub-title mt-40px-all"><h3><span style=" border-bottom: 2px solid #ffda00; line-height: 35px; font-size: 18px; font-weight: bold; ">2. แยกความเป็นเพื่อน ออกจากการทำงาน </span></h3></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">คู่เพื่อนรักหลายคนที่ตกม้าตายในการทำธุรกิจส่วนใหญ่มักมีจุดเริ่มต้นของปัญหามาจากเรื่องแบบนี้ ที่เราแยกความเป็นเพื่อนกับเรื่องงานออกจากกันไม่ได้ ทำไมเราถึงบอกให้ควรแยกเรื่องนี้ออกจากกัน เพราะว่าการทำธุรกิจ มีความซับซ้อน และมีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารงาน บริหารเงิน รวมถึงเรื่องของคนในธุรกิจ</div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">หากไม่แยกเรื่องเพื่อนออกให้ชัดเจน เมื่อเกิดปัญหาต่างคนจะรู้สึกเกรงใจ ไม่กล้าพูด ไม่กล้าแย้งอะไรหากความคิดเห็นไม่เหมือนกัน เพราะหากพูดอะไรจะทำให้ต้องทะเลาะกับเพื่อน ปัญหาเหล่านี้ดูเหมือนเล็กน้อยแต่ถ้ามันเกิดขึ้นบ่อย ๆ สะสมไปเรื่อย ๆ เมื่อถึงวันหนึ่งฝ่ายใดหมดความอดทน จุดจบคงมีทางเดียวคือ ทะเลาะกันอย่างหนัก เลวร้ายสุดคือต้องเลิกทำธุรกิจร่วมกัน และความเป็นเพื่อนก็จบลงไปในที่สุด</div><div class="mt-ar-text1"><center><img alt="เรื่องเงินต้องคุยให้ชัดเจนตั้งแต่ก่อนเริ่มทำธุรกิจกับเพื่อน" class="img-fluid" src="/getmedia/aec145c6-8ebc-4edf-bebc-eec4c25b7387/how-to-start-business-with-friend-detail-04.jpeg.aspx" /></center></div><div class="ar-sub-title mt-40px-all"><h3><span style=" border-bottom: 2px solid #ffda00; line-height: 35px; font-size: 18px; font-weight: bold; ">3. เรื่องเงินต้องคุยให้เคลียร์ ตั้งแต่ก่อนเริ่มทำธุรกิจ </span></h3></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">เชื่อไหมว่าคำว่า &ldquo;เงิน&rdquo; เป็นอาวุธที่สะบั้นความสัมพันธ์มาเยอะแล้ว ไม่ว่าจะเป็น พี่น้อง คนรัก หรือแม้กระทั่งเพื่อนสนิท แต่เฮ้ยพวกเรารักกัน ไม่มาแตกคอกันเพราะเรื่องแค่นี้หรอก ถึงวันนี้เราจะบอกว่าเงินไม่สามารถทำลายพวกเราได้ แต่อนาคตใครจะรู้ หากธุรกิจเกิดไปได้สวย หรือขาดทุนหนัก ๆ เรื่องเงินจะกลายมาเป็นประเด็นในการทะเลาะกันทันที ฝ่ายใดอาจได้เยอะกว่า อีกฝ่ายน้อยกว่า เรื่องเงินถึงไม่เข้าใครออกใครอยู่เสมอ</div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">ถ้าคิดจะ<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/starting-new-business" target="_blank">เริ่มทำธุรกิจ</a>แล้วไม่อยากเจอปัญหาแบบนี้ ให้ตกลงกันเลย ธุรกิจอันนี้จะ<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/partnership-management" target="_blank">แบ่งหุ้น</a>กันอย่างไร เงินในส่วนของกำไร ใครจะได้ส่วนแบ่งมาก หรือน้อย กำหนดกันให้ชัดไปเลย เรื่องเงินอย่าไปคิดว่า เป็นเรื่องน่าอาย ไม่ควรพูดกัน แต่การทำธุรกิจเรื่องเงินเป็นเรื่องควรที่จะพูดกัน ถ้าไม่อยากมาทะเลาะในวันที่สายเกินไป</div><div class="mt-ar-text1"><center><img alt="แบ่งหน้าที่กันให้ชัดเจน และเคารพความคิดของอีกฝ่ายในการทำธุรกิจกับเพื่อน" class="img-fluid" src="/getmedia/adfe94d3-d7b6-442c-afb8-36c8ab0a587d/how-to-start-business-with-friend-detail-05.jpeg.aspx" /></center></div><div class="ar-sub-title mt-40px-all"><h3><span style=" border-bottom: 2px solid #ffda00; line-height: 35px; font-size: 18px; font-weight: bold; ">4. แบ่งหน้าที่กันให้ชัดเจน และเคารพความคิดของอีกฝ่าย</span></h3></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">เมื่อตกลงจะทำธุรกิจกับเพื่อนแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่ควรแบ่งกันให้ชัดเจนคือ Role ของแต่ละคน หุ้นส่วนแต่ละคนมีหน้าที่อะไร ใครบริหารงานส่วนไหน และเขียนข้อตกลงทั้งหมดลงเป็นลายลักษณ์อักษรให้ครบ เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหากันภายหลัง และถ้าแบ่งงานกันแล้วก็พยายามอย่าเข้าไปก้าวก่ายงานของอีกฝ่าย</div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">โดยเฉพาะในเรื่องของงานบริหารคน ถ้าอีกฝ่ายต้องคุมทั้งงานและคน หากมีคนเข้าไปก้าวก่ายโดยที่ไม่เกี่ยวข้อง จะทำให้เพื่อนรู้สึกไม่พอใจเอาได้ เราต้องเชื่อใจ และไว้ใจหากแบ่งงานกันแล้ว ยกเว้นมีเรื่องที่ร้ายแรง อันนี้เราควรปรึกษากับเพื่อนแบบตรง ๆ จะดีกว่า แล้วการทำงานร่วมกันจะได้ราบรื่น ไม่ต้องมาทะเลาะกันให้เสียเพื่อนเปล่า ๆ</div><div class="mt-ar-text1"><center><img alt="ข้อตกลงในการทำธุรกิจร่วมกันกับเพื่อน" class="img-fluid" src="/getmedia/976ce567-c0a2-46b8-a73f-06b4d591c15a/how-to-start-business-with-friend-detail-06.jpeg.aspx" /></center></div><div class="ar-sub-title mt-40px-all"><h3><span style=" border-bottom: 2px solid #ffda00; line-height: 35px; font-size: 18px; font-weight: bold; ">5. มีข้อตกลงในการทำธุรกิจร่วมกัน</span></h3></div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">เรื่องนี้อาจดูเหมือนเล็กน้อย แต่การมาทำธุรกิจร่วมกัน เรื่องเล็กของเรา อาจเป็นเรื่องใหญ่ของใครอีกคน โดยเรื่องที่เราควรทำข้อตกลงกับเพื่อน ๆ อย่างเช่น เวลาเข้า-ออก การทำงานใครสะดวกเวลาไหนเพราะแต่ละคนอาจมีงานหลักไม่เหมือนกัน แต่อยากมาทำธุรกิจร่วมกันเป็นงานเสริม หรือเรื่องของการทำบัญชีในธุรกิจ ใครจะเป็นคนรับผิดชอบเงินทั้งหมดของธุรกิจ หรือจะเอางานส่วนนี้ไปให้บริษัทด้านนอกมารับช่วงต่อทำให้ อันนี้ต้องตกลงกันให้ดี ถ้าไม่อยากต้องมาทะเลาะกันบ่อย ๆ เพราะไม่ตกลงร่วมกันตั้งแต่เริ่มต้น</div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">หากคุยตกลงเรียบร้อย ให้ลองมาจำลองสถานการณ์กันสักรอบหนึ่ง ว่าถ้าเกิดปัญหาในการทำธุรกิจเราจะทำอย่างไร ใครจะเป็นคนตัดสินใจหากเกิดข้อผิดพลาด หรือถ้าเป็นเรื่องใหญ่ ๆ ที่ต้องตัดสินใจแบบด่วน ๆ จะมอบหมายหน้าที่นี้ให้กับใคร ถ้าเรามีข้อตกลงกันเป็นอย่างดี เมื่อเจอปัญหาใหญ่ ๆ จริง เราจะสามารถผ่านมันไปได้แบบชิลล์ ๆ</div><div class="ar-text-content mt-ar-text1">ถึงตรงนี้เพื่อน ๆ คงทราบกันแล้วว่าหากอยาก<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/partnership-sme-tips" target="_blank">ทำธุรกิจกับเพื่อน</a> ๆ ไม่ให้มีปัญหากันในอนาคตจะต้องทำอย่างไร เพราะเรื่องผลประโยชน์ในธุรกิจมักไม่เข้าใครออกใคร การเปิดใจพูดคุยกันจะช่วยให้ปัญหาที่ค้างคาในใจสลายออกไป แล้วเหลือแต่ความเข้าใจกันแล้วเราจะทำธุรกิจกับเพื่อน ๆ ได้อย่างมีความสุข จนธุรกิจประสบความสำเร็จโดยไร้ปัญหาจากภายใน</div></div><style type="text/css">.ar-sub-title { font-family: "Krungsri-Condensed-Bold"; font-size: 20px; font-weight: bold; letter-spacing: 0; margin-left: 0px;}</style><style type="text/css">.ar-box-title { line-height: 48px; border-left: 5px solid #ffd400;}</style>
ks-plearn
3 Min Read
share
5 ข้อควรรู้ เริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์อย่างมือโปร
SME

5 ข้อควรรู้ เริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์อย่างมือโปร

<div class="text-content"><!-- start Top text content --> <div class="ar-text-content">หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบความเสี่ยง หรือเป็นผู้ประกอบการที่มองหาหนทางสู่ความสำเร็จอย่างรวดเร็ว แต่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจที่มาพร้อมกับแบรนด์และโมเดลธุรกิจที่เป็นที่ยอมรับ การลงทุนใน<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/franchise-vending-machine" target="_blank">ธุรกิจแฟรนไชส์</a>เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมก็เป็นอะไรที่น่าลงทุนไม่น้อย<br /> <br /> ในการเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์ จำเป็นต้องเข้าใจถึงแก่นแท้ความจริงการทำธุรกิจเฟรนไชส์คืออะไร เพื่อให้แน่ใจว่ากำลังใช้เวลาและทรัพยากรในการลงทุนได้อย่างคุ้มค่า คุณจำเป็นจะต้องเข้าใจเรื่องของธุรกิจเฟรนไชส์เหล่านี้เสียก่อน</div> <div class="mt-ar-text1 mb-24px-all"> <center><img alt="แฟรนไชส์คืออะไร มีรูปแบบยังไงบ้าง?" class="img-fluid mb-5px-all" src="/getmedia/8d87f0c1-742d-44c2-ba81-a7f7d90e21df/5-things-before-invest-franchise-business-detail-01.jpg.aspx" /></center> </div> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mt-24px-xs pl-10px-all"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">ธุรกิจแฟรนไชส์คืออะไร มีรูปแบบยังไงบ้าง? </span></h2> </div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1">ที่จริงแล้วธุรกิจแฟรนไชส์ที่เราคุ้นหูคุ้นตากันนั้น คือธุรกิจที่เจ้าของได้ให้สิทธิผู้อื่นในการประกอบธุรกิจขายสินค้าหรือบริการได้ โดยที่ &ldquo;แฟรนไชส์ซอร์&rdquo; (ผู้ให้สิทธิในการประกอบธุรกิจ) ทำข้อตกลงให้บุคคลอีกคนหนึ่งที่เรียกว่า &ldquo;แฟรนไชส์ซี&rdquo; (ผู้รับสิทธิในการประกอบธุรกิจ) โดยใช้ รูปแบบ ขั้นตอน รวมไปถึงสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของตนหรือที่แฟรนไชส์ซอร์ มีสิทธิที่จะให้ผู้อื่นใช้เพื่อประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ของตนเองภายในระยะเวลา หรือภายในเขตพื้นที่ที่กำหนด ซึ่งการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์นั้น จะอยู่ภายใต้การส่งเสริม และควบคุมตามแผนการดำเนินธุรกิจของแฟรนไชส์ซอร์ โดยที่แฟรนไชส์ซีมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าตอบแทนแก่แฟรนไชส์ซอร์นั่นเอง</div> <div class="ar-sub-title mt-ar-text1"> <h3><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00; line-height: 35px; font-size: 18px; font-weight: bold;">เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchisor) </span></h3> </div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1">เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ หรือแฟรนไชส์ซอร์ คือผู้ให้สิทธิในการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์กับผู้ที่จะมาขอซื้อแฟรนไชส์</div> <div class="ar-sub-title mt-ar-text1"> <h3><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00; line-height: 35px; font-size: 18px; font-weight: bold;">ผู้ลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchisee) </span></h3> </div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1">ผู้ลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ หรือแฟรนไชส์ซี คือผู้รับสิทธิในการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งจะเป็นผู้ที่ไปขอซื้อแฟรนไชส์จากเจ้าของแฟรนไซส์</div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1">ดังนั้นแล้วธุรกิจแฟรนไชส์ จะเหมือนการโคลนนิ่งธุรกิจหรือร้านค้า เพื่อที่จะขยายตลาดให้เติบโต แต่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขที่แฟรนไชส์ซอร์กำหนดเอาไว้นั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่เราอยากได้สูตรลับของร้านนั้น ๆ แน่นอนว่ามันไม่ฟรี เพราะมันจะมีค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจไปตลอดจนถึงสัญญาซื้อที่ต้องจ่ายแบบต่อเนื่อง ในการซื้อธุรกิจแฟรนไชส์มาเป็นของตัวเอง</div> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mt-24px-xs pl-10px-all"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">เรามาดูตัวอย่างธุรกิจแฟรนไชส์ที่นิยมในบ้านเรากัน </span></h2> </div> <div class="mt-ar-text1 mb-24px-all"> <center><img alt="ตัวอย่างธุรกิจแฟรนไชส์ที่นิยิมในไทย" class="img-fluid mb-5px-all" src="/getmedia/9294d419-9793-4c42-bee2-b12fe928bac0/5-things-before-invest-franchise-business-detail-02.jpg.aspx" /></center> </div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1">เมื่อพูดถึงร้านสะดวกซื้อชื่อดังร้านนึงที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงที่หลายคนคุ้นหูคุ้นตาและพบเห็นกันตามซอยต่าง ๆ หรือปั๊มน้ำมัน อาจจะเคยเดินเข้าไปใช้บริการกันบ้างแล้ว แน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย<br /> <br /> โดยที่สินค้าและบริการของร้านสะดวกซื้อนั้น ได้รับความนิยมมีความตอบโจทย์ผู้บริโภคในวงกว้าง และมีแนวโน้มเติบโตได้เร็ว จึงทำให้มีผู้ที่สนใจในธุรกิจแฟรนไชส์เพิ่มมากขึ้น เนื่องมาจากมีทีมงานและบริษัทคอยช่วยเหลือและสนับสนุน โดยที่การเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังต่อไปนี้ <ol class="pl-20px-all"> <li>ร้านสาขาบริษัทดำเนินการเอง</li> <li>ร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต (Sub Area)</li> <li>ร้านสาขาประเภทร่วมลงทุน (Store Business Partner) ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย</li> </ol> <br /> ทำไม &ldquo;Store Business Partner&rdquo; ถึงเป็นที่นิยมในประเทศไทยนั้น เป็นเพราะว่าผู้ที่ลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ ไม่จำเป็นที่จะต้องมีความรู้ในด้านธุรกิจมาก เพียงแต่ต้องหมั่นหาความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา โดยทางร้านสะดวกซื้อชื่อดังจะมีทีมงานที่ปรึกษาคอยช่วยเหลือในทุกด้าน เช่น ถ้าหากไม่มีทำเลดี ๆ เปิดร้าน ทางทีมงานก็คัดสรรทำเลมาให้ เป็นต้น<br /> <br /> เมื่อเราพอจะเข้าใจว่าธุรกิจแฟรนไชส์คืออะไร&hellip; ต่อไปจะเป็นข้อควรรู้ที่ควรพิจารณาก่อนที่จะกระโดด<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/bonchon-chicken-korean-style-by-thai-entrepreneur" target="_blank">เข้าสู่การลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์</a></div> <div class="ar-box-title mt-40px-xl mt-24px-xs pl-10px-all"> <h2><span class="ar-sub-title mt-40px-all ml-0px-all-i">5 ข้อควรรู้ ถ้าจะเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์ต้องรู้อะไรบ้าง? </span></h2> </div> <div class="mt-ar-text1 mb-24px-all"> <center><img alt="เริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์ต้องรู้อะไรบ้าง?" class="img-fluid mb-5px-all" src="/getmedia/2a571235-fc7a-44e6-8785-76ed08a43522/5-things-before-invest-franchise-business-detail-03.jpg.aspx" /></center> </div> <div class="ar-sub-title mt-ar-text1"> <h3><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00; line-height: 35px; font-size: 18px; font-weight: bold;">1. เริ่มที่ &ldquo;เช็กความต้องการ&rdquo; ของตลาดก่อน</span></h3> </div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1">ตรงนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญเลยล่ะที่ควรพิจารณา ก่อนคิดจะลงมือทำขั้นตอนต่อไป เราจะต้องลองศึกษาให้มั่นใจก่อนว่าเทรนด์ธุรกิจแฟรนไชส์ในท้องตลาดภาพรวมยังมีความต้องการใช้บริการหรือซื้อผลิตภัณฑ์ของแฟรนไชส์ที่เราสนใจจะลงทุนอยู่หรือเปล่า? เราจะต้องเลือกให้แน่ใจว่าธุรกิจมีความ &ldquo;ยั่งยืนและสามารถขายได้จริง&rdquo; เพื่อการเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์ที่เราสนใจเลือกลงทุนในระยะยาว<br /> <br /> วิธีเช็กความต้องการของตลาดธุรกิจแฟรนไชส์ มีดังนี้ <ul class="pl-20px-all"> <li>เลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับ</li> <li>ตรวจสอบยอดขายและการเติบโตของสาขาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา</li> <li>ประเมินความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของเจ้าของแฟรนไชส์</li> <li>เข้าใจ Target Market ที่เหมาะสมกับธุรกิจ</li> <li>วิเคราะห์ศักยภาพของ Location ที่แฟรนไชส์กำหนดไว้</li> </ul> </div> <div class="mt-ar-text1 mb-24px-all"> <center><img alt="เช็กความต้องการตลาดธุรกิจแฟรนไชส์" class="img-fluid mb-5px-all" src="/getmedia/7552e87d-fb6b-46d3-89a9-a690bb27154d/5-things-before-invest-franchise-business-detail-04.jpg.aspx" /></center> </div> <div class="ar-sub-title mt-ar-text1"> <h3><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00; line-height: 35px; font-size: 18px; font-weight: bold;">2. เช็กงบดูเงินในกระเป๋าต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่? </span></h3> </div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1">เงินทุนคือสิ่งสำคัญในการซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ คือเงินทุนในการดำเนินงานของคุณ เงินทุนเริ่มต้นส่วนใหญ่ จะตกเป็นของแฟรนไชส์ซอร์ในรูปแบบของค่าธรรมเนียมสำหรับการฝึกอบรม อุปกรณ์ และสิทธิ์ในการออกใบอนุญาต ดูว่าบริษัทแฟรนไชส์จะให้บริการอะไรเพื่อแลกกับค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ และประเมินเวลาที่ต้องใช้เพื่อรับค่าใช้จ่ายล่วงหน้ากลับคืนมา เพื่อพิจารณาว่าธุรกิจแฟรนไชส์เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่<br /> <br /> ถึงแม้ว่าคุณจะมีโมเดลธุรกิจและแนวทางปฏิบัติอยู่แล้วจากเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับเส้นทางการเริ่มต้นเพราะในธุรกิจแฟรนไชส์อาจเกี่ยวข้องกับความจำเป็นในการเอาตัวรอดจากจุดคุ้มทุน และช่วงขาดทุนสุทธิก่อนที่ธุรกิจแฟรนไชส์ของคุณจะโฟลว์<br /> <br /> ตรงจุดนี้ ต้องบอกเลยว่าคุณจะต้องมีรูปแบบทางการเงินที่ดีระดับหนึ่งเลยหล่ะ เพื่อหล่อเลี้ยงให้ธุรกิจแฟรนไชส์ของคุณ เดินต่อได้แบบไม่สะดุด ขอแนะนำให้คุณเข้าถึงเงินทุนที่ครอบคลุมทั้งค่าใช้จ่ายทางธุรกิจและค่าครองชีพส่วนบุคคลเป็นเวลาประมาณหกเดือน จริงอยู่ว่าแฟรนไชส์ได้ให้แผนความสำเร็จแก่คุณแล้ว แต่คุณจะทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์ของคุณสำเร็จหรือไม่ นั้นมันขึ้นอยู่กับคุณแล้วที่จะทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์แรกของคุณนั้นไปรอด คำแนะนำคือให้คุณมีเงิน <a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/franchise-business" target="_blank">Pocket Money</a> หรือ<a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/easy-loan-by-digital-lending" target="_blank">เงินกู้สำรอง</a>เผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน</div> <div class="ar-sub-title mt-ar-text1"> <h3><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00; line-height: 35px; font-size: 18px; font-weight: bold;">3. เช็กตัวเองว่า &ldquo;คุณเป็นคนแบบไหน&rdquo; </span></h3> </div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1"><a class="Text-link" href="https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/own-business-or-buy-franchise" target="_blank">การเป็นเจ้าของแฟรนไชส์</a>ไม่เหมาะสำหรับทุกคน หากคุณเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าหาญ ไม่ทำตามกฎหรือทำอาหารโดยไม่มีสูตร... การลงทุนในแฟรนไชส์นี่อาจจะไม่ใช่ทางสำหรับคุณ เราต้องขอโทษที่ต้องบอกคุณตรง ๆ แบบนี้ แต่ในโลกของธุรกิจแฟรนไชส์นั้นมันมีกฎที่ต้องปฏิบัติตามอยู่เสมอ ซึ่งนั้นเป็นงานของคุณที่จะทำให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้น เพื่อให้ธุรกิจแฟรนไชส์ของคุณดำเนินต่อไปได้ ภายใต้การทำสิ่งนี้ ตามแนวทางของผู้อื่น คุณจะเป็นผู้ดำเนินการแทน หรืออาจกล่าวได้ว่าคุณเป็นผู้ดำเนินการ แต่ไม่ใช่ผู้สร้าง หากคุณเป็นนักฉีกไม่ทำตามกฎ อย่าเพิ่งซื้อธุรกิจแฟรนไชส์มาลงทุนเลย มันอาจจะกลายเป็นหายนะได้!</div> <div class="ar-sub-title mt-ar-text1"> <h3><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00; line-height: 35px; font-size: 18px; font-weight: bold;">4. ธุรกิจแฟรนไชส์คืนทุนตอนไหน? </span></h3> </div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1">เราทุกคนล้วนคาดหวังผลกำไรจากการลงทุนอยู่แล้วแน่นอน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เราสามารถคำนวณได้เมื่อลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีระบบที่ดี ซึ่งเราสามารถพูดคุยกับเจ้าของแฟรนไชส์และรับตัวเลขทางการเงิน หรือคำนวณจุดคุ้มทุน (Break-Even Point) จากเจ้าของแฟรนไชส์เพื่อพูดคุยถึงสิ่งที่คาดหวังก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจแฟรนไชส์ โดยตัวเลขที่ได้มานั้นจะสามารถคำนวณระยะเวลาและรายได้ในการที่จะคืนทุนในอนาคต อย่างไรก็ตามการลงทุนในแฟรนไชส์ใหม่นั้นก็เปรียบเสมือนเป็นเกมที่ต้องคาดเดา เนื่องจากมีที่ตั้งเพียงไม่กี่แห่ง จึงเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจถึงความลึกหรือขอบเขตที่แท้จริงของโอกาสทางการเงิน<br /> <br /> อย่างที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ กล่าว &ndash; &ldquo;ราคาคือสิ่งที่คุณจ่าย คุณค่าคือสิ่งที่คุณได้รับ&rdquo; การลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ก็เช่นเดียวกัน ควรเลือกธุรกิจที่มีศักยภาพและให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า</div> <div class="mt-ar-text1 mb-24px-all"> <center><img alt="ข้อตกลงและสัญญาการทำธุรกิจแฟรนไชส์มีอะไรบ้าง" class="img-fluid mb-5px-all" src="/getmedia/e648018b-9e63-48a0-9686-b917b4c46069/5-things-before-invest-franchise-business-detail-05.jpg.aspx" /></center> </div> <div class="ar-sub-title mt-ar-text1"> <h3><span style="border-bottom: 2px solid #ffda00; line-height: 35px; font-size: 18px; font-weight: bold;">5. ตรวจสอบสัญญาและค่าธรรมเนียมของแฟรนไชส์ </span></h3> </div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1">การซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ อาจมีเรื่องของความซับซ้อนทางกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องในข้อตกลงด้วย ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงควรปรึกษาผู้ที่มีความรู้ในด้านนี้โดยเฉพาะก่อนที่จะตกลงทำสัญญา ในส่วนของค่าธรรมเนียมผู้ซื้อธุรกิจแฟรนไชส์จะต้องรับรู้และเข้าใจในข้อตกลงว่ามีค่าธรรมเนียมอะไรบ้างที่ต้องจ่าย โดยค่าธรรมเนียมที่ผู้ซื้อธุรกิจแฟรนไชส์จะต้องจ่ายมีดังต่อไปนี้ <ul class="pl-20px-all"> <li><strong>ค่าธรรมเนียมเริ่มต้น</strong> เพื่อซื้อแฟรนไชส์ (ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเงินก้อน) ให้กับผู้ถือสิทธิ์ในการที่จะดำเนินธุรกิจต่อไป</li> <li><strong>ค่าธรรมเนียมการจัดการ</strong> หรือเงินรายงวด เป็นสิ่งที่ต้องจ่ายอย่างต่อเนื่อง</li> </ul> <br /> โดยการจ่ายเงินครั้งนี้ มักจะเป็นรอบรายเดือน, 2 เดือน, หรือไตรมาส เงินส่วนนี้ เหมือนเป็นการจ่ายเพื่อให้เจ้าของสิทธิ์นำไปพัฒนาสินค้าและบริการให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น<br /> <br /> ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณคงมีความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจแฟรนไชส์มากขึ้นแล้วล่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดที่ต้องมี คือ ทัศนคติ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจแฟรนไชส์มาก ที่จะรู้ว่าคุณกำลังจะทำอะไรและรู้ว่าจะเผชิญหน้ากับอะไร<br /> <br /> แต่สิ่งที่อยากให้ได้จากบทความนี้จริง ๆ คือ อย่ารีบเร่ง!! ใช้เวลาในการวิเคราะห์ คิดตรึกตรอง หาข้อมูลศึกษาให้ลึกก่อนเริ่มต้นตัดสินใจลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์และหลังจากทำทั้งหมดนี้ จะตัดสินใจได้ถูกต้อง และจะประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์ได้ในระยะยาว</div> <div class="ar-text-content mt-ar-text1"> <style type="text/css">.ar-sub-title { font-family: "Krungsri-Condensed-Bold"; font-size: 20px; font-weight: bold; letter-spacing: 0; margin-left: 0px;} </style> <style type="text/css">.ar-box-title { line-height: 48px; border-left: 5px solid #ffd400;} </style> </div> </div>
ks-plearn
3 Min Read
share
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา